FAQ – Fiora Clinic
คำถามที่พบบ่อย อัพเดตล่าสุด 2025

เรารวบรวมคำถามและคำตอบที่พบบ่อยเกี่ยวกับคลินิก บริการ และอื่นๆ อีกมากมายไว้ที่นี่แล้ว 

Q: Fiora Clinic ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองหรือไม่?

A: แน่นอนค่ะ Fiora Clinic ใช้ผลิตภัณฑ์ทุกชนิดที่ผ่านการรับรองจาก อย. ประเทศไทย และ US FDA เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ เลเซอร์ หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ คุณจึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัย และมีมาตรฐานสูงสุด

Q: บริการทั้งหมดทำโดยแพทย์จริงหรือไม่?

A: ใช่ค่ะ ทุกเคสจะได้รับการดูแลและทำหัตถการโดย ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม โดยตรง ไม่มีการใช้ผู้ช่วยหรือบุคลากรที่ไม่มีใบอนุญาต

Q: ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นธรรมชาติหรือไม่?

A: ที่ Fiora Clinic เราเน้นการใช้เทคนิคเฉพาะ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมา เป็นธรรมชาติที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการปรับรูปหน้า การฉีดฟิลเลอร์ หรือการทำเลเซอร์

Q: ฟิลเลอร์ที่ใช้ปลอดภัยหรือไม่?

A: ฟิลเลอร์ที่เราเลือกใช้เป็นฟิลเลอร์แท้จากแบรนด์ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากทั้ง US FDA และ อย. ไทย ปลอดภัย 100%

Q: ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน?

A: โดยทั่วไป ฟิลเลอร์สามารถคงผลลัพธ์ได้ประมาณ 12–18 เดือน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีด และการดูแลของแต่ละบุคคล

Q: ฉีดฟิลเลอร์แล้วจะเป็นก้อนหรือเปล่า?

A: หากฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์และใช้เทคนิคที่ถูกต้อง จะไม่เกิดปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อน ที่ Fiora Clinic เรามีทีมแพทย์ที่ทำหัตถการมาแล้วกว่า 30,000 เคส

Q: โบท็อกซ์ที่ Fiora Clinic ใช้ยี่ห้ออะไร?

A: เราใช้โบท็อกซ์ที่ได้รับการรับรอง เช่น Dysport, Nabota, Aestox ซึ่งเป็นที่นิยมและได้รับการยอมรับในระดับสากล

Q: ฉีดโบท็อกซ์อยู่ได้นานแค่ไหน?

A: ปกติผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 4–6 เดือน ขึ้นอยู่กับร่างกายและพฤติกรรมการใช้กล้ามเนื้อของแต่ละบุคคล

Q: โบท็อกซ์อันตรายไหม?

A: หากใช้ของแท้และฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โบท็อกซ์ถือว่าปลอดภัย ไม่ส่งผลเสียระยะยาว

Q: เลเซอร์ PicoSure กับ YAG ต่างกันอย่างไร?

A: PicoSure เหมาะสำหรับการแก้ไขปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยสิว หลุมสิว และลบรอยสัก ส่วน YAG จะเหมาะกับการปรับสภาพผิว ลดเม็ดสี และทำให้ผิวดูใสขึ้น

Q: ทำเลเซอร์แล้วหน้าจะบางหรือไม่?

A: ไม่ค่ะ เครื่องเลเซอร์ที่ Fiora Clinic ผ่านการรับรองมาตรฐาน และใช้พลังงานที่เหมาะสมกับผิวของแต่ละคน จึงไม่ทำให้ผิวบางหรือไวต่อแสง

Q: ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?

A: ส่วนใหญ่เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก แต่เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนาน ควรทำต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์

Q: HIFU กับ Ultraformer III ต่างกันอย่างไร?

A: ทั้งสองเป็นเครื่องยกกระชับที่ไม่ต้องผ่าตัด แต่ Ultraformer III เป็นเทคโนโลยีรุ่นใหม่ที่ให้พลังงานเสถียรกว่า เห็นผลชัดเจนและอยู่ได้นานกว่า

Q: หลังทำ HIFU ต้องพักฟื้นไหม?

A: ไม่ต้องพักฟื้นค่ะ หลังทำสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ อาจมีอาการตึงเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปใน 1–2 วัน

Q: Oligio คืออะไร?

A: Oligio เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับผิวที่มาแรงในปัจจุบัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ใกล้เคียงการร้อยไหม แต่ไม่ต้องใช้เข็ม

Q: IV Drip ของ Fiora Clinic ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

A: IV Drip สูตรเฉพาะของเรา Skin Aura ช่วยฟื้นฟูผิวจากภายใน บำรุงให้ผิวกระจ่างใส ลดความหมองคล้ำ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย

Q: ทรีตเมนต์หน้าใสกับเมโสต่างกันอย่างไร?

A: ทรีตเมนต์เป็นการบำรุงจากภายนอก เช่น นวด ผลักวิตามิน และมาสก์ ส่วนเมโสคือการฉีดวิตามินเข้าสู่ผิวโดยตรงเพื่อผลลัพธ์ที่รวดเร็วและชัดเจน

Q: Meso Super White คืออะไร?

A: เป็นโปรแกรมเมโสหน้าใสสูตรเฉพาะ ที่ช่วยให้ผิวหมองคล้ำกลับมากระจ่างใส สุขภาพดี และช่วยลดรอยสิวได้

Q: ต้องนัดหมายล่วงหน้าหรือไม่?

A: เพื่อความสะดวก เราแนะนำให้ลูกค้านัดหมายล่วงหน้า โดยสามารถจองคิวผ่าน โทรศัพท์, Line Official หรือโซเชียลมีเดีย ของ Fiora Clinic

Q: การปรึกษามีค่าใช้จ่ายหรือไม่?

A: ฟรีค่ะ คุณสามารถส่งรูปให้แพทย์ประเมินเบื้องต้นได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

Q: Fiora Clinic เปิดให้บริการวันไหนบ้าง?

A: เราเปิดบริการ ทุกวันจันทร์–อาทิตย์ เวลา 11.00 – 19.00 น.

สรุป

คำถามเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสิ่งที่ลูกค้าสนใจ หากคุณมีคำถามเพิ่มเติม ทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ของ Fiora Clinic ยินดีที่จะให้คำตอบและดูแลอย่างใกล้ชิดเสมอ